วิตามินซีมีประโยชน์

“3เสียง” ช่วยพัฒนาสมอง

เติมความสุขพร้อม “พัฒนาสมองในทางบวก” กับ “3 เสียงดนตรี” กระตุ้นการเชื่อมต่อเซลล์ประสาท ช่วยสมองทำงานมีประสิทธิภาพ

“ดนตรี” เป็นอีกหนึ่งสื่อสร้างสุขยอดฮิต ที่ไม่เพียงส่งผลต่ออารมณ์-ความรู้สึกเท่านั้น แต่มหัศจรรย์แห่ง “เสียง” ยังมีส่วนกระตุ้นการเชื่อมต่อของเซลล์ประสาท ทำให้สมองทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ “3 เสียง” ต่อไปนี้ เด็กๆ ฟังได้ ผู้ใหญ่ฟังดี

เริ่มที่ “เสียงดนตรีคลาสสิก” งานวิจัยหลายชิ้นระบุประโยชน์ว่า มีคลื่นเสียงเป็นระเบียบ ช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย สมองส่วนรับรู้เกิดการรับ ส่ง และเชื่อมโยงเซลล์สมองที่แตกตัวมากขึ้น กระตุ้นสมองเปิดรับสิ่งต่างๆ ได้ดี

“เสียงดนตรีไทย หรือ เพลงไทยเดิม” ซึ่งมีจังหวะ และทำนองละเอียดอ่อน ไพเราะ นุ่มนวล มีชีวิตชีวา สร้างสรรค์ ให้ความหมายในทางบวก ช่วยสร้างความรู้สึกสงบ ระบบการหายใจ จังหวะหัวใจ และคลื่นสมองทำงานประสานกันได้ดี

“เสียงธรรมชาติ” อาทิ เสียงสัตว์ต่างๆ น้ำไหล สายลม ป่า คลื่น ฯลฯ เหมาะสำหรับเด็กๆ โดยมีคุณพ่อ-คุณแม่อธิบายให้ฟังด้วย จะช่วยเพิ่มประสบการณ์ ฝึกทักษะการฟัง มีประโยชน์ต่อพัฒนาการด้านสื่อสาร และใช้ภาษา ทั้งยังกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ด้วย

เป็นหนึ่งทางเลือกง่ายๆ สำหรับส่งเสริมการเรียนรู้ และพัฒนาสมอง ลองเลือกฟัง และปรับใช้กันดู ทั้งนี้ วัยเรียนไม่ควรฟังเพลงพร้อมการบ้าน หรือ รายงานที่ต้องใช้ความคิด วิเคราะห์ เพราะอาจได้ชิ้นงานที่ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ

 

ที่มา   http://www.thaihealth.or.th

 

กิน”วิตามินซี”เสริมดีหรือไม่  ตอนเด็ก ๆ หลายคนชอบกินวิตามินซีชนิดเม็ด เพราะคุณพ่อคุณแม่หาซื้อมาประเคน นัยว่าป้องกันโรคลักปิดลักเปิด พอโตขึ้นหลายคนก็ยังกินอยู่ เพราะสะดวก หรือบางคนอาจจะไม่ชอบกินผลไม้

 นพ.กฤษดา กล่าวว่า วิตามินซีชนิดเม็ดที่ขายกันอยู่มีทั้งวิตามินซีธรรมชาติ และสังเคราะห์ โดย ชนิดที่เป็นสารสัง เคราะห์ ประกอบด้วย กรดแอสคอบิก ผสมกับน้ำเชื่อมข้าวโพด หรือ คอร์นไซรัป มีการเติมสี แต่งกลิ่น แต่งรส ดังนั้นการกินวิตามินซีชนิดเม็ดจะได้ความหวานด้วย โดยเฉพาะที่เป็นชนิดแบบอมเล่น รสผลไม้ ทั้งหลาย

 

ถามว่าวิตามินซี ชนิดเม็ดให้คุณค่าเช่นเดียวกับผลไม้ที่มีวิตามินซีหรือไม่ ขอเรียนว่า ถ้าเป็นวิตามินซีธรรมชาติจะให้คุณค่าไม่ต่างจากผลไม้อุดมวิตามินซีทั่วไป แต่ถ้าเป็นวิตามินซีสังเคราะห์มีงานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าอาจทำให้เกิด มะเร็งมากขึ้นในหนูทดลองและทำให้หลอดเลือดแข็งตีบในคนได้

 

โดยหลักในการเลือกซื้อวิตามินซีธรรมชาติไม่ให้ดูแค่คำว่า ธรรมชาติ หรือ Natural ข้างฉลากเท่านั้น หากแต่ต้องดูคำว่า ผลิตจากผักและผลไม้ในสภาวะที่เหมาะสม หรือ Made from fruits and vegetables below 70 degrees แทน

 

สำหรับความจำเป็นในการกินวิตามินซีชนิดเม็ด นพ.กฤษดา บอกว่า หากกินผักผลไม้ไม่ค่อยไหวก็อาจรับประทานได้บ้าง แต่ไม่ใช่ใช้แทน เพราะอย่างไรก็ดีวิตามินจะดูดซึมได้ดีต้องมีสารธรรมชาติบางชนิดในผลไม้นั้น ๆ ช่วยด้วย ดังนั้นสูตรสำเร็จสำหรับผู้รักที่จะกินวิตามินซีก็คือ กินอาหารเสริมบวกอาหารสดนั่นเอง

 

อาหารที่มีวิตามินซีมาก ได้แก่ ฝรั่งกลมสาลี่ มะขามเทศ มะขามป้อม มะละกอแขกดำ พุทรา แอปเปิ้ล และส้มโอขาวแตงกวา ซึ่งจะสังเกตได้ว่าความเปรี้ยวไม่ใช่ตัวบอกวิตามินซี เพราะจะเห็นว่าผลไม้เปรี้ยวจัดอย่างมะยมหรือลูกเสาวรสไม่ติดอันดับต้น ๆ เลย

 

นอกจากนี้อาหารธรรมชาติที่นึกไม่ถึงอีกชนิดที่มีวิตามินซีมาก คือ ปลาทะเลดิบ มีกรด แอสคอบิกมากเป็นพิเศษ จะเห็นได้ว่าชาวเอสกิโมนั้นแม้ไม่ค่อยได้บริโภคพืชผักผลไม้ ก็ยังไม่เป็นโรคขาดวิตามินซี

 

กลุ่มคนที่ควรรับประทานวิตามินซี คือ ผู้ที่สูบบุหรี่ ผู้ที่เป็นโลหิตจางและผู้รับประทานมังสวิรัติ เพราะบุหรี่หนึ่งมวนจะผลาญวิตามินซีไปเท่ากับส้มเขียวหวานราว 1 ผลเลยทีเดียว ส่วนโลหิตจางบางชนิดกับคนกินมังสวิรัตินั้นมักขาดธาตุเหล็กจากเนื้อสัตว์จึง ต้องอาศัยวิตามินซีช่วยจับธาตุเหล็กให้มากขึ้นแทน รวมถึงผู้ที่เริ่มสูงวัยหรือผิวพรรณเริ่มเสื่อมไป วิตามินซีจะช่วยกวาดสนิมแก่ ช่วยเพิ่มคอลลาเจน ซึ่งเป็นเสมือนกระดูกของผิวให้คงรูปไม่เหี่ยวย่นเร็วเกินวัย วิตามินซียังช่วยเสริมภูมิให้กับผู้ป่วยภูมิแพ้เรื้อรัง ไอเรื้อรังหรือเป็นหวัดบ่อย นอกจากนี้ยังแก้เครียดด้วย เพราะเกี่ยวพันกับต่อมหมวกไตในการสร้างฮอร์โมนต้านเครียดและการอักเสบชื่อ ว่า คอติซอล

 

กินวิตามินซีมากไปมีผลเสียหรือไม่? นพ.กฤษดา กล่าวว่า มีแน่นอน การกินนับสิบ ๆ เม็ดหรือบ้างก็ใช้ฉีดเข้าเส้นกันโดยหวังว่าจะรักษามะเร็งและโรคร้ายอื่นได้ มีงานวิจัยที่แสดงว่าวิตามินซีปริมาณมากอาจทำให้เกิดนิ่วในทางเดินปัสสาวะ ได้ เพิ่มอัตราการเกิดมะเร็งในหนูทดลอง ทำให้หลอดเลือดหัวใจตีบแข็งในมนุษย์ ทำให้ขาดธาตุทองแดงและน้ำย่อยสำคัญในร่างกาย

 

ส่วนอาการเตือนในช่วง แรกที่กินมากไปทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ที่สังเกตได้ อาทิ คลื่นไส้ ถ้ากินมากถึงแก่อาเจียน แสบร้อนกระเพาะอาหาร จุกใต้ลิ้นปี่ ระคายทางเดินอาหาร ถ่ายเหลว ปัสสาวะสีเข้ม

 

อย่างไรก็ตามไม่ต้อง ตระหนกอกสั่นกับ วิตามินซีเป็นพิษ มาก เพราะว่ามันละลายน้ำได้ ถ้าได้เยอะเกินไปร่างกายจะขับออกทางปัสสาวะโดยอัตโนมัติ ไม่ได้เป็นอันตรายอะไร จะแย่หน่อยก็ตรงเสียดายว่ามันจะกลายเป็นฉี่แพงไปหน่อยเท่านั้นเอง

 

 

ที่มา   http://www.thaihealth.or.th

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

ติชม


ต้องการให้คะแนนบทความนี้่ ?

สร้างโดย :


Activitr

สถานะ : ผู้ใช้ลงทะเบียน
ไม่ระบุ